กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ร่วมกันตรวจค้น เครือข่ายบริษัทนอมินี ในเขตพื้นที่จังหวัดระยอง และชลบุรี รวม 3 จุด


​ดำเนินคดี

​1.นิติบุคคล จำนวน 4 ราย ประกอบด้วย

​​​1.) บริษัท กู๊ดวิวฯ จำกัด สัญชาติฮ่องกง

​​​2.) บริษัท เทอร์ร่าฯ จำกัด สัญชาติไทย

​​​3.) บริษัท สกายฯ จำกัด สัญชาติไทย

​​​4.) บริษัท โอเชียนฯ จำกัด สัญชาติไทย

2.บุคคล จำนวน 11 ราย ประกอบด้วย

1.) นายหลีฟางฯ สัญชาติจีน (กรรมการบริษัท)

​​​2.) นางสาววรติฯ สัญชาติไทย (กรรมการบริษัทและผู้ถือหุ้น)

​​​3.) นายประเสริฐฯ สัญชาติไทย (ผู้ถือหุ้น)

​​​4.) นายชายฤทธิ์ฯ สัญชาติไทย (ผู้ถือหุ้น)

​​​5.) นายปุณณัตถ์ฯ สัญชาติไทย (ผู้ถือหุ้น)

​​​6.) นายเต๋าฯ สัญชาติจีน (คนคุมงาน)

​​​7.) นายเจียงฯ สัญชาติจีน (ช่างประปา)

​​​8.) นายเซี้ยะฯ สัญชาติจีน (ช่างปูน)

​​​9.) นายหวังฯ สัญชาติจีน (คนคุมงาน)

​​​10.) นายเฮาฯ สัญชาติจีน (ผู้ออกแบบ)

​​​11.) นายซวงฯ สัญชาติจีน (ผู้ออกแบบ)


รายการตรวจยึด

1.เอกสารทะเบียนบริษัท 10 ชุด

2.สมุดบัญชีธนาคาร 48 เล่ม

3.โน้ตบุ๊ก 2 เครื่อง โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง

4.โฉนดที่ดิน 7 ฉบับ เนื้อที่ รวม 72 ไร่

5.สัญญาซื้อขายที่ดิน 1 ฉบับ

6.ตราประทับบริษัท 6 ชิ้น

7.Token ธนาคาร 7 ชิ้น​


ฐานความผิด

1.พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542

2.พระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2497

3.พระราชกำหนดการบริหารการจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2560


เนื่องจาก บก.ปอศ. และกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ตรวจสอบพบกลุ่มนิติบุคคลไทย จำนวน 3 ราย ถือครองที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่จังหวัดระยองและชลบุรี มีพฤติกรรมนำบุคคลสัญชาติไทยมาเป็นตัวแทนอำพราง หรือที่เรียกว่า “นอมินี”เพื่อหลบเลี่ยงข้อกฎหมาย และการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่รัฐ


จึงได้ทำการสืบสวนสอบสวน กลุ่มนิติบุคคลทั้ง 3 รายดังกล่าว พบว่ากลุ่มบริษัทดังกล่าวเริ่มจดทะเบียนในช่วงปี 2566-2567 โดยมีวัตถุประสงค์ผลิตและจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง และดำเนินกิจการเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์มีโครงสร้างผู้ถือหุ้นที่ซับซ้อน มีการใช้พนักงานคนไทย เช่น พนักงานฝ่ายขาย คนขับรถตักดิน มาถือหุ้นและเป็นกรรมการ โดยไม่ได้ลงทุนจริงและไม่มีบทบาทในการบริหารแต่อย่างใด ซึ่งหลังจากจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทแล้ว บริษัทได้กว้านซื้อที่ดินในพื้นที่ อำเภอนิคมพัฒนา จังหวัดระยอง และ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี จำนวน 7 แปลง รวมเนื้อที่กว่า 72 ไร่ เพื่อนำมาสร้างเป็นที่ตั้งบริษัทและโครงการที่พักอาศัย ในลักษณะอาคารชุด 8 ชั้น จำนวน 10 อาคาร เป็นห้องพักอาศัยกว่า 1,821 ห้อง รวมมูลค่าโครงการกว่า 2,000 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันโครงการดังกล่าวอยู่ระหว่างก่อสร้าง


ต่อมาวันที่ 22 เมษายน 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปอศ. ได้นำหมายค้นเข้าทำการตรวจค้นบริษัทพร้อมกัน 3 จุด ในพื้นที่จังหวัดระยองและชลบุรี โดยเข้าทำการตรวจยึดพยานเอกสารและพยานวัตถุที่สำคัญ เช่น โฉนดที่ดินจำนวน 7 แปลง มูลค่า 36 ล้านบาท สมุดบัญชีธนาคารทั้งไทยและจีน จำนวน 48 เล่ม ยอดเงิน

รวม 72ล้านบาท ตราประทับบริษัท จำนวน 6 ชิ้น และ สอบสวนปากคำพยานจำนวน 14 ปาก ประกอบด้วย กรรมบริษัท พนักงานคนไทย และ แรงงานชาวจีน


โดย พยานที่เป็นพนักงานของบริษัทให้การยืนยันว่า บริษัทถูกบริหารโดยบุคคลสัญชาติจีน และมีการนำชื่อพนักงานคนไทยไปเป็นผู้ถือหุ้นแทนคนจีน


จากการตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่า กลุ่มบริษัทดังกล่าวมีการส่งตัวแทนชาวจีนเข้ามาควบคุมสั่งการทั้งในด้านการบริหารและการดำเนินงานก่อสร้างของบริษัท มีการดำเนินกิจการและครอบงำจากนายทุนชาวจีนแบบครบวงจร โดยตั้งบริษัทผลิตคอนกรีตเอง เพื่อนำมาใช้ในการก่อสร้างโครงการที่พักอาศัย โดยใช้วิศวกรคุมงาน ผู้ออกแบบ ช่างวางระบบไฟฟ้า ประปา และแรงงานกรรมกรเป็นชาวจีน และจากการตรวจสอบเส้นทางการเงินของบริษัทพบว่า มีการรับโอนเงินจากบริษัทนายทุนจีน ซึ่งจดทะเบียนอยู่ที่เขตบริหารพิเศษฮ่องกง โดยพบเงินหมุนเวียนในบัญชีของบริษัทกว่า 500 ล้านบาท สะท้อนให้เห็นว่าบริษัทดังกล่าวมีนายทุนจีนเป็นเจ้าของที่แท้จริง


จากการรวบรวมพยานหลักฐาน กก.4 บก.ปอศ. จึงได้ดำเนินคดี กับ นิติบุคคล จำนวน 4 ราย และบุคคลทั้งสัญชาติไทยและจีน จำนวน 5 ราย ในความผิดตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 และ แรงงานชาวจีน จำนวน 6 ราย ในความผิดตาม พ.ร.ก.การบริหารการจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2560 ในส่วนของที่ดินที่บริษัทถือครองกรรมสิทธิ์อยู่นั้น จะได้ดำเนินมาตรการบังคับให้จำหน่าย ตาม พ.ร.บ.ให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2497 ต่อไป